|
Post by Admin on Apr 26, 2019 22:51:26 GMT 7
WILLIAM x VANDERWAL ; 27-04-19 ประชุมลับภายในตระกูล
|
|
|
Post by Daniel. on Apr 27, 2019 19:38:21 GMT 7
ดาเนียลมาถึงห้องสมุดมี่บัดนี้ได้กลายเป็นห้องประชุมเฉพาะกิจได้เร็วกว่าที่คิด อาจจะเป็นเพราะว่าเริ่มชินกับผังทางเดินของคฤหาสน์หลังนี้มากขึ้นจากการใช้เวลาเดินสำรวจในบางที่
การประชุมนี้ขาดสมาชิกไปบางส่วนอย่างน่าเสียดาย ถึงจะไม่ครบองค์ประชุม แต่ดาเนียลเคยคิดใส่ใจเสียที่ไหนล่ะ, ต่อให้หนึ่งในผู้โชคร้ายพวกนั้นเป็นโลเปซอีกคน ดาเนียลก็ยังหาเหตุผลที่จะนึกถึงบุคคลพวกนี้ไม่ได้เลยจริงๆ
|
|
|
Post by West V. on Apr 27, 2019 19:43:54 GMT 7
West Vanderwal
เวสท์ลืมนัดวันนี้เลยเสียชิบขณะที่อยู่ในห้องสมุดอีกแห่ง โชคดีที่ประสบการณ์ของการเริ่มสูงอายุทำให้เขาไม่ลืมเลือนจะจดนัดไว้ในโทรศัพท์ให้มันบอกเตือนอีกครั้ง ร่างสูงใหญ่เดินผ่านตัวบ้านที่ชวนจะหลงสิ้นดี ไม่มีแผนที่นำทาง ป้ายบอกชื่อ ต้องใช้เวลาพอควรเพื่อจะจดจำให้เหมือนอยู่บ้านตัวเอง
ความหรูหราของห้องสมุดกลางแสดงมาแต่ไกล ห้องขนาดใหญ่ สูงกว่าสิบคนยืนเสียอีกถ้าเขานับไม่ผิด เรียงร้อยไปด้วยชั้นหนังสือนับหมื่นพัน สวรรค์สำหรับนักอ่าน ผู้มาเยือนก่อนหน้านั่งตามมุมสะดวกใจตนเรียบร้อยแล้ว บ้างคุ้นตา บางไม่เคยเห็น เวสท์เพียงยิ้มรับอย่างทุกครั้งพลางโคลงศรีษะเล็กน้อย เลือกที่นั่งหลังโต๊ะไม้ยาวสำหรับอ่านหนังสือในมุมหนึ่ง หยิบตำราใกล้ตัวขึ้นมาอ่านเพื่อชดเชยเวลาขณะรอ
West V.
|
|
|
Post by JORDAN on Apr 27, 2019 19:47:31 GMT 7
มือใหญ่วางลงบนขมับพลางออกแรงนวดเพียงแผ่วเบาให้รู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง คฤหาสน์แห่งนี้ทำให้เขารู้สึกปวดหัวหนัก ร่างสูงของจอร์แดนทิ้งร่างลงบนเบาะนวมนุ่มของโซฟาตัวนึงไม่ไกลนัก หางตาเหลือบมองผู้มาก่อนอย่างไม่นึกใยดีนัก ความสุภาพของเขาถูกม้วนเก็บเพราะอาการเจ็บป่วย แต่สุดท้ายจอร์แดนก็คือจอร์แดน เขากล่าวทักทายสวัสดีแก่ญาติผู้มีศักดิ์แก่กว่า ก่อนจะทิ้งตัวหลับตาอิงผนักรอจนกว่าการประชุมจะเริ่มต้นขึ้น
|
|
|
Post by Jolene G. on Apr 27, 2019 19:50:40 GMT 7
- II -
โจลีนน์ในชุดเดรสเรียบน้ำเงินเข้มคลุมเข่า เดินเข้ามาภายในห้องสมุดใหญ่ด้วยอาการไม่รีบร้อนนัก นี่เป็นการประชุมอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาครั้งแรก หากไม่นับการรับประทานอาหารเย็นวานนี้ น่าจะยังมีคนมาถึงไม่มาก หล่อนเลือกนั่งลงกับเก้าอี้เดี่ยวตัวหนึ่งไม่ไกลจากเตาผิงมากนัก วางมือประสานบนตักเพื่อรอเวลาการเริ่มประชุมในอีกไม่ช้า
Jolene V. Guzman
|
|
karenxv
Karen
𝑲𝒂𝒓𝒆𝒏 𝑽𝒂𝒏𝒅𝒆𝒍𝒘𝒂𝒍 𝑳𝒐𝒑𝒆𝒛.
Posts: 58
|
Post by karenxv on Apr 27, 2019 19:55:29 GMT 7
นัยน์ตาคู่สวยเหลือบมองนาฬิกาบนผนังที่ประดับไว้ในห้องพักส่วนตัว เธอลุกขึ้นหยิบต่างหูสีเงินรูปดาวขึ้นมาติดประดับที่ติ่งหูทีละข้างจนเรียบร้อย ความประหม่าตีตื้นขึ้นมาเล็กน้อยพร้อมกับความสงสัยว่า วิลเลี่ยมที่ว่านั่นคือใคร (สารภาพว่าจำไม่ได้...) ชุดกระโปรงยาวฟู่ฟ่องสีเขียวเข้มเปิดหัวไหล่ถูกจัดให้เข้าทรงก่อนที่เรียวขายาวจะก้าวเดินออกจากห้องพักไปยังสถานที่ที่นัดไว้ตามคำเชิญของคุณพ่อบ้าน
ค่อนข้างดูมิดชิดสมกับเป็นการประชุมลับภายในตระกูล
เหมือนว่าคนที่เธอกำลังสงสัยจะยังมาไม่ถึง คาเรนเอ่ยคำทักทายบุรุษและสตรีตรงหน้าที่เข้ามาก่อนแล้ว
"ทำไมไม่โดนยาพิษไปด้วยนะ? ช่างน่าเสียดาย" เธอทำเพียงคิดในใจพร้อมฉีกยิ้มอย่างเป็นมิตรส่งไปให้ก่อนจะหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาหนังริมหน้าต่างบานใหญ่ รอเครือญาติที่เหลือเข้ามาให้ครบ
|
|
|
Post by 𝑨𝒍𝒆𝒙𝒊𝒔 on Apr 27, 2019 19:57:54 GMT 7
เส้นผมสีบลอนด์แพตตินั่มเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้อเล็กซิสกลายเป็นจุดเด่นเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นในห้องประชุม เด็กหนุ่มวัยยี่สิบกว่าอ้าปากหาวหวอดเพราะเพิ่งตื่นจากการงีบหลับในช่วงเย็นของวัน เรียวขายาวซ่อนใต้ยีนส์สีเข้มก้าวอาดๆ เข้ามาจับจ้องเก้าอี้โดยไม่มองหน้าใคร สมาร์ทโฟนเครื่องพอดีมือถูกหยิบขึ้นมากด ไร้คำทักทายให้กับผู้มาใหม่ รวมถึงผู้ที่ตามมาทีหลังเช่นกัน
|
|
|
Post by Payton on Apr 27, 2019 20:20:25 GMT 7
เพย์ตันเดินเข้ามาในห้องประชุมที่มีคนอยู่แล้วก่อนหน้า พลางมองไปทางกลุ่มคนที่เริ่มทยอยเข้ามาในห้องสมุดนี้แล้วตามนัด เด็กหนุ่มขยับปกเสื้อผ้าฝ้ายให้เข้าที่ ดูรวมๆ แล้วชุดเขากึ่งจะเป็นชุดนอนอยู่แล้วตอนนี้ ก็มันดึกแล้วนี่นา.. คนที่นอนวันละสิบชั่วโมงอย่างเขาไม่ชอบนักหรอก การอบหลับอดนอนมานั่งประชุมหรือคุยอะไรที่เป็นทางการในช่วงเวลาเตรียมเข้านอน มันต้องเป็นเวลาสำหรับรีแลกซ์แล้วสิ
และไม่ได้มีการทักทายใครเป็นพิเศษ เพย์ตันเลือกนั่งเก้าอี้ที่ใกล้ประตูทางออกที่สุดเพราะเวลาเลิกจะได้รีบเผ่นก่อนคนแรก เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงบนเก้าอี้รอเวลาให้การประชุมเริ่มต้น
|
|
|
Post by julian on Apr 27, 2019 20:40:51 GMT 7
ชั้นสองของคฤหาสถ์แวนเดอร์วัลมีของตกแต่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย จูเลียนมองเพลินจนเกือบลืมว่าวันนี้มีนัดประชุม
สายเกินกว่าเวลาที่นัดกันไว้ ขาของร่างสูงพาเขาก้าวเข้าไปในห้องสมุด การอ่านวรรณกรรมและหนังสือไม่ใช่ทางเลือกแรกของเขา (แม้ว่าเขาจะชื่นชอบศิลปะมากก็ตาม) นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาห้องนี้ ชายหนุ่มไม่ได้คิดว่าอะไรน่าสนใจอะไรเป็นพิเศษ เขาค้อมหัวลงเล็กน้อยเป็นเชิงขออภัยกับสมาชิกตระกูลคนอื่นที่นั่งอยู่แล้วก่อนหน้า “ขอโทษที่มาสายครับ” กล่าวจบก็เดินไปนั่งยังเก้าอี้หนังซึ่งมีโต๊ะอยู่ด้านหน้า
|
|
|
Post by Admin on Apr 27, 2019 21:01:08 GMT 7
CHAPTER II ประชุมลับภายในคฤหาสน์
ประตูไม้บานใหญ่ถูกผลักเปิดออกด้วยฝีมือของพ่อบ้านบาร์โธโลมิว ดูเหมือนว่าทันทีที่ฝีเท้าของเขาก้าวเข้ามาด้านในห้องพร้อมกับเสียงล้อของวีลแชร์ที่บดลงบนพื้นไม้ด้านใน เสียงพูดคุยที่เคยดังอย่างแผ่วเบาก็พลันสลายหายไปในชั้นความเงียบที่คลี่ลงมาปกคลุมทั่วทั้งห้องแทน วิลเลียม แวนเดอวัล กวาดนัยน์ตาสีอ่อนมองบรรดาเหล่าทายาทที่เขาเป็นผู้เขียนจดหมายเชื้อเชิญมาด้วยตนเอง ขณะที่ร่างบนรถเข็นของเขาถูกนำเข้ามาโดยพ่อบ้านใหญ่, คนเก่าแก่และสนิทชิดเชื้อเพียงคนเดียวของคฤหาสน์ เส้นผมสีดอกเลาที่ขึ้นแซมทั่วทั้งศีรษะทำให้ชายชราดูสูงวัยกว่าอายุจริงเล็กน้อย หากนัยน์ตาคมกริบของประมุขแห่งสายเลือดอันทรงเกียรติกลับสาดประกายเจิดจ้า คล้ายดังว่าไม่สยบยอมต่อสิ่งใดบนโลกใบนี้, แม้กระทั่งความตาย.
และในทันทีที่การมาถึงของเขาเรียกสายตาของคนทั้งห้องให้พุ่งมารวมกันที่จุดเดียว บาร์โธโลมิวก็รุนด้านหลังของวีลแชร์เบาๆ เพื่อให้ร่างของวิลเลียมหมุนกลับมาเผชิญหน้ากับทุกคน ความเงียบคลี่คลุมทั่วทั้งห้อง ก่อนที่น้ำเสียงอันทรงอำนาจของประมุขจะถูกเอ่ยขึ้น
"ก่อนอื่น ฉันคงต้องขอยินดีต้อนรับพวกเธอ นี่คงเป็นครั้งแรกที่เรามีโอกาสได้พูดคุยกันอย่างเป็นจริงเป็นจังเสียที"
"เย็นวานเป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าอาหารที่นี่จะถูกปากพวกเธอ ฉันได้ทาบทามหัวหน้าเชฟใหญ่แห่งโรงแรมที่ดีที่สุดของบูดาเปสต์มาประจำการที่นี่ชั่วคราว เพื่อประกอบอาหารมื้อนั้นขึ้นต้อนรับพวกเธอโดยเฉพาะเชียว"
รอยยิ้มบนใบหน้าของชายชราดูกึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง ไม่มีใครเลยที่บังอาจล่วงรู้ว่าแววตาอันคมกริบของเขา กวาดทะลุสิ่งใดบ้างภายในห้องอันขนัดคับแคบด้วยผู้คนเช่นนี้ พ่อบ้านก้าวขึ้นมาจากด้านหลังเพื่อส่งแก้วไวน์บรรจุของเหลวสีดำสนิทให้กับทุกคนในห้อง เหมือนเดิมกับไวน์ที่เสิร์ฟเมื่อคืนก่อนไม่ผิดเพี้ยน ก่อนที่แก้วของวิลเลียมจะถูกชูขึ้นสูง
"ท่านหญิงแมรี่, ท่านแม่ของฉัน สอนให้ฉันใช้มือขวาถือแก้วยกขึ้นแบบนี้ เพื่อแสดงความยินดีให้กับท่านชายปู่เมื่อท่านกลับมาถึงบ้านของเรา หลังจากล่องเรือออกโพ้นทะเลไปนานหลายเดือน อาหารบนโต๊ะมักจะเป็นวัตถุดิบที่หาได้ตามท้องทะเล แตกต่างไปตามน่านน้ำที่ท่านไปเยือน มันน่าสนุกเมื่อได้คอยลุ้นว่าคราวนี้ที่ท่านกลับมาถึงบ้าน ของขวัญที่ฉันจะได้จากท่านมันคืออะไร แต่เมื่อวันเวลาผ่าน, ท่านจากไป ยุคสมัยก็เปลี่ยนผัน เรายังคงจับพังงาเรือ แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือ เราก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านการขนส่งในน่านน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดติดอันดับโลก"
แก้วไวน์ในมือโคลงเคลงไปมาเล็กน้อยจากมืออันสั่นเทาของชายชรา สายตาของเขายังจับอยู่ที่บุตรหลาน ขณะที่กระดกลิ้มชิมรสชาติไวน์ในแก้ว เรียกให้ทุกคนทำตามอย่างพร้อมเพรียงกัน
"ความจริงแล้ว ที่ฉันเรียกพวกเธอมาในวันนี้ ไม่สิ คงต้องบอกว่าเหตุผลหลักที่ต้องเชื้อเชิญให้เธอมาที่คฤหาสน์แห่งนี้ เพราะฉันมีเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดที่อยากจะขอความช่วยเหลือ" บรรยากาศในห้องเยือกเย็นลงตามน้ำเสียงของประมุขแห่งแวนเดอวัล "พวกเธอนอาจทราบ หรือไม่ทราบว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้แวนเดอวัลยืนหยัดเป็นสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ได้ นั่นเพราะเราได้ครอบครองเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่ถูกพระราชทานมาจากจักรพรรดิแห่งฮังการีเมื่อหลายร้อยปีก่อน"
เป็นอีกครั้งที่ทุกคนตระหนักได้ถึงการมีอยู่ของพ่อบ้านผู้ยืนอย่างเงียบเชียบและสงบเสงี่ยมตลอดการสนทนา บาร์โธโลมิวก้าวขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับชูรูปภาพขนาดใหญ่ขึ้นมา
"เทียร่าชิ้นนี้มีมูลค่าถึงพันล้านดอลล่าร์ เพราะมันประดับด้วยเพชรดวงตานางฟ้าที่ทรงคุณค่ามากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ฉันต้องเสียใจที่จะบอกกับพวกเธอว่า ....มันได้สูญหายไปในรอยต่อของช่วงศตวรรษที่ 19 และ ศตวรรษที่ 20 ก่อนฉันจะเกิดเพียง 15 ปีเท่านั้น"
"การหายไปของเทียร่าถูกปิดเป็นความลับชั่วชีวิตของฉัน อย่าแปลกใจหากเธอไม่เคยได้ยินข่าวคราวการสูญหายของมันเลย เป็นความบกพร่องในการเก็บรักษาของของต้นตระกูลเรา แต่ขอว่าพวกเธออย่าได้ถือโทษโกรธเคืองความเลินเล่อที่ผ่านมาเกือบ 90 ปีนั้นเลย"
สีหน้าและแววตาของวิลเลียมดูเจ็บปวดเหลือแสนกับความเป็นจริงดังกล่าวที่พรั่งพรูออกมาจากปากของเขา ชายชราเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวนานเกินไป และในตอนนี้เขาดูเหมือนคนไร้ที่พึ่ง
"ความจริงแล้วฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องเกียรติยศและศักดิ์ศรีที่ได้จากเทียร่าชิ้นนั้นนักหรอก เพราะอย่างที่บอก, ฉันเติบโตมา และมีเกียรติยศศักดิ์ศรีได้โดยที่ไม่มีมัน แต่เรื่องราวที่ฉันกำลังจะบอกต่อไปนี้ พวกเธอที่เป็นคนรุ่นใหม่อาจจะไม่เชื่อ ส่วนฉัน ที่ได้ประจักษ์แก่สายตาของตัวเองแล้วนั้นคงพูดคำนั้นออกมาได้ไม่เต็มปาก"
แก้วไวน์ว่างเปล่าถูกเก็บไปโดยพ่อบ้าน ขณะที่ความเย็นเยือกในบรรยากาศกำลังวิ่งเข้าเกาะกุมทุกชีวิตภายในห้องช้าๆ
"เทียร่าชิ้นนั้น ผูกพันกับตระกูลของเราด้วยคำสาป คำสาปที่ว่าถ้าหากมันหายไป สิ่งที่ต้องถูกชดเชยให้คือ 'ชีวิต' ของแวนเดอวัล"
แม้ว่าคำพูดของชายชราจะฟังดูไม่สมเหตุสมผล และไม่ปะติดปะต่อใดๆ เลยก็ตาม แต่สายตาของเขากลับทำให้ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าสอดปากขึ้นถาม
"ปู่ของฉันจากไปด้วยโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษา ทั้งที่วิทยาการแพทย์ในยุคนั้นก็ไม่ได้ด้อยเสียจนไม่อาจรักษาโรคอหิวาห์ได้ ว่ากันว่ามันเป็นเพราะผลพวงจากคำสาปที่เขาทำเทียร่าชิ้นนั้นหายไป หลังจากนั้นไม่นานปู่น้อยของฉันก็เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุ ทั้งที่เขานั่งอยู่ที่บ้านเฉยๆ และดูไม่มีเหตุอันควรใดให้เสียชีวิตได้เลย"
"ตลอดชีวิตของฉันไม่เคยคิดจะเชื่อเรื่องราวพรรค์นี้ แต่..." ท้ายประโยคขาดหายไปด้วยเสียงไอโขลกอย่างดัง ร่างของชายชราทรุดตัวงอลงกับรถเข็น เกือบจะถลาลงล้มคว่ำบนพื้นหากไม่ได้มือของพ่อบ้านที่สังเกตเห็นความผิดปรกตินั้นก่อนใคร
เสียงไอแหบแห้งดังมาพร้อมกับเสียงสูดน้ำมูกราวกับมีของเหลวมหาศาลตามออกมาด้วย พ่อบ้านสะบัดผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋าเสื้อสูทอย่างรวดเร็ว กุลีกุจอเช็ดฝ่ามือของชายชราที่บัดนี้... แดงฉานไปด้วยโลหิต จนผ้าขาวในมือของเขาชุ่มโชกด้วยสีแดงฉาน
ความวุ่นวายเกิดขึ้นในทันทีที่มีคนสังเกตเห็น บาร์โธโลมิวยังเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าถึงตัวของชายชราได้เมื่อฝ่ามือเหี่ยวย่นของวิลเลียมขยำเสื้อสูทของเขาเอาไว้แน่น คนที่อยู่ใกล้กับประตูที่สุดถูกสั่งให้วิ่งออกไปตามหมอประจำคฤหาสน์มา [เพย์ตัน] ขณะที่บาร์โธโลมิวส่งคำขอความช่วยเหลือจาก [ดาเนียล] อุ้มร่างของชายชราไปส่งที่ห้องนอนชั้นสอง
การประชุมสิ้นสุดลงโดยทิ้งความเคลือบแคลงใจไว้อย่างที่ไม่สามารถหาคำตอบจากใครได้
กรุณาโรลเพลย์ล้อตามสถานการณ์ดังกล่าว ไม่ต้องยาว ไม่จำเป็นต้องเก็บทุกรายละเอียด แต่ต้องเริ่มต้นและสิ้นสุดที่จุดเดียวกัน
|
|
|
Post by Payton on Apr 27, 2019 21:18:34 GMT 7
จากที่นั่งฟังด้วยหู้ซ้ายละทุออกไปทางหูขวา เพย์ตันจับความได้ว่าของอะไรสักอย่างหายไปตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นทวด ซึ่งของชิ้นนี้มันจะทำให้คนในตระกูลมีอันเป็นไปอย่างหาเหตุผลไม่ได้ แต่ก็นั่นละ ยังไม่ทันจะได้รู้รายละเอียดอะไรเท่าไหร่ เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ชายชราผู้เป็นใหญ่ในบ้านมีอาการกำเริบด้วยโรคอะไรบางอย่างค่อนข้างรุ่นแรง สาบานกับเสียงเพลงแห่งเวียนนาเถอะ เขาว่าเขามองเห็นเลือดบนผ้าสีขาวนั่นเต็มไปหมด
ด้วยความที่เด็กหนุ่มอยู่ใกล้ประตูที่สุด แทนที่จะได้เผ่นออกไปนอนกลับเป็นเขานี่ล่ะที่ต้องวิ่งไปตามหมอด้วยความตกใจ ชีวิตนี้เขายังไม่เคยเห็นใครตายต่อหน้ามาก่อน อย่าเพิ่งมาตายอะไรกันตอนนี้เลยนะ อีกอย่างเขาค่อนข้างเซนซิทีฟกับคนแก่ด้วย ขายาวรีบวิ่งออกประตูห้องเพื่อไปตามหมอ วิ่งอย่างรวดเร็วผิดกับท่าทีเอื่อยเฉื่อยเตรียมจะเข้านอนก่อนหน้านี้ราวกับหน้ามือเป็นหลังมือ โดยไม่ลังเลหันกลับมามองความวุ่นวายในห้องอีก
"รอแปปนะครับ ผมจะไปตามหมอมาให้"
|
|
|
Post by Daniel. on Apr 27, 2019 21:38:36 GMT 7
แดนรีบช้อนรับร่างของชายสูงอายุขึ้นขณะเดียวกันกับที่เสียงทุ้มนุ่มที่มักจะแฝงนัยสุภาพอยู่ตลอดเวลาของพ่อบ้านบาโธโลมิวเอ่ยร้องขอความช่วยเหลือ ร่างสูงขยับพยุงวิลเลียมให้ขยับลุกขึ้น เสื้อเชิร์ตขาวเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบโลหิต ก่อนที่ดาเนียลจะรีบสาวเท้าตามบาโธโลมิวออกไปจากห้องสมุด
ถึงแม้ว่าการทำแบบนี้รู้สึกคล้ายจะไม่ใช่งานที่เหมาะกับชายวัยกลางคนที่คิดทำแต่งานสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรจนถึงกับจะเป็นลมล้มทรุดตามผู้ป่วยไปอีกคน, ร่างกายเขายังไม่ถึงกับผอมแห้งแรงน้อยไปซะหมด และเนื่องด้วยภาวะฉุกเฉิน เขาต้องทำในสิ่งที่จำเป็น ถึงจะมีความคิดว่ามีบุคคลที่เหมาะสมกับงานนี้มากกว่าเขาก็ตาม
|
|
|
Post by West V. on Apr 27, 2019 21:50:56 GMT 7
West Vanderwal
นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเพ่งมองไปที่ตัวอักษรหนังสือประวัติศาสตร์เล่มหนา สงครามแห่งยุคอย่างไรก็คงไม่พ้น สงครามโลกครั้งที่สอง แน่นอนว่าแวนเดอร์วัลมีส่วนร่วม ก็รูปภาพท่านทั้งหลายของตระกูลยังอยู่ในชุดอิสริยาภรณ์กอปรด้วยตำแหน่งอันสูงศักดิ์และเข็มดาวประดับยศมากมาย แต่ความอภิรมย์ต้องถูกขัดจากเสียงล้อเลื่อนลากมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงย่ำเท้าของผู้คุ้นหน้า พ่อบ้านบ้าด
สรรพเสียงล้วนเบาลงจนเงียบ จนกระทั่งพ่อบ้านนำผู้สูงวัยเกรงว่าจะเป็นคนที่ใหญ่สุดที่นี่ และก็ดูเหมือนจะใช่ ชื่อของท่านคือวิลเลี่ยม การกล่าวอันยาวนานด้วยโทนเสียงระดับเดิมของผู้สูงวัยมักจะน่าเบื่อ แต่สำหรับวิลเลี่ยมทุกประโยคสามารถเชือดเฉือนได้เพียงแค่พูดออกมา ยิ่งกว่าเงินตราก็คืออำนาจที่เขาถือครอง เรื่องราวของเทียร์ร่าดูน่าตื่นตาตื่นใจในทั้งจำนวนมูลค่าและความสามารถ เวสท์ไม่ได้เชื่ออย่างสนิทใจทันทีกับความพิศวงเหล่านั้น คงเป็นความบังเอิญหรือโชคร้ายเสียมากกว่า
แต่เรื่องราวในคืนนี้เริ่มแปลกไป จากเริ่มต้นที่วิลเลี่ยมเริ่มแสดงอาการป่วย เวสท์เองก็นึกเป็นห่วงคนป่วยอย่างทุกคน แต่สถานการณ์กลับไม่ดีเมื่อเริ่มรุนแรงขึ้นอย่างมากเมื่อร่างชราของชายอายุตอนปลายเกือบจะล้มลงกระแทกกับพื้นขณะอยู่ในรถเข็น แต่ดีที่พ่อบ้านผู้เคร้งครัดสั่งคำสั่งเสียงดังฟังชัดด้วยการกล่าวชื่อของคนสองคนขึ้นมา เวสท์ที่กำลังลุกขึ้นไม่ทันทำอะไรก็ต้องมองตามร่างทั้งสี่หายลับจากห้องไปอย่างไว
เหลือเพียงเหล่าลูกหลานที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ต่างยืนวิตกในอาการ และต่างอยู่ในห้วงอารมณ์ของตนเอง สำหรับเวสท์ แวนเดอร์วัล ที่อายุมากแล้วเข้าใจดีอย่างลึกซึ้งของการป่วยในวัยที่ไม่น้อยเช่นนี้ สุขภาพก็ไม่ดีเหมือนอย่างวัยละอ่อนรอบห้องเช่นพวกเขา
รถวีลแชร์โครงเหล็กคันเก่าแต่บุหนังอย่างดีถูกวางไว้อยู่กลางห้อง เวสท์ส่ายใบหน้ามองทุกคนกลับไม่มีใครสนใจในพาหนะของชายสูงวัยจึงเดินเข้าไปแล้วจับแฮนด์สองข้างลากล้อเหล็กเดินตามทางที่เหล่าผู้คนก่อนหน้า ... สุดทางเดินประตูบ้านไม้หรูหราสลักอย่างวิจิตรแต่งแต้มด้วยพลอยหลากสี เวสท์คลายมือทิ้งรถเข็นไว้ด้านหน้า ผู้คนทั้งสองที่มาก่อนยืนอยู่ก่อนแล้วเช่นกัน ชายร่างใหญ่ยังคงดูเหนื่อยหอบแต่น้อยกว่าวัยรุ่นอีกคน ที่แทบจะขาดใจอยู่ทุกวินาที
"ตอนแก่ล่ะผมไม่อยากป่วยจริง ๆ ถึงได้ฟิตออกกำลังกายอย่างทุกวันนี้" เขากล่าวกับดาเนี่ยลที่รุ่นราวไม่ห่างกันมากนักแต่คำตอบกลับเป็นความว่างเปล่า
West V.
|
|
|
Post by julian on Apr 27, 2019 21:54:51 GMT 7
เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันแค่… ‘ว้าว’
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเรื่องเหนือธรรมชาติไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในความสนใจของจูเลียน เขาหมดความศรัทธากับมันไปตั้งแต่ที่รู้ว่าซานตาคลอสไม่มีจริงและกระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ไม่สามารถออกไข่ได้ แม้ว่าชายหนุ่มจะฉลองคริสต์มาสกับเพื่อน (และพ่อแม่ในบางปี) เขาก็ไม่ได้ยอมรับอย่างสนิทใจว่าเรื่องปาฏิหาริย์ที่เล่าขานต่อๆ กันมานั้นเป็นความจริง
แต่สำหรับเรื่องคำสาปกับเทียร่าที่ปู่ของเขาเล่าออกมาด้วยสีหน้าท่าทางจริงจัง ลึกๆ แล้ว จูเลียนก็อดไม่ได้ที่จะหาจุดที่สามารถเชื่อมโยงมันเข้ากับความเป็นจริง หัวคิ้วของเขาขมวดมุ่นเหมือนคนที่กำลังพยายามไขปริศนาที่ยากเข็ญอะไรบางอย่าง
เขาใช้ความคิดเงียบๆ ได้ไม่นานก็ต้องหยุดลง เพราะชายชราบนรถเข็นไอและสำลักเลือดออกมาในปริมาณมากจนน่ากลัว เด็กหนุ่มที่อยู่ใกล้ทางออกมากที่สุดวิ่งออกไปตามหมอก่อนแล้ว และดาเนียลที่อยู่ใกล้กับวิลเลียมมากที่สุดก็กำลังเคลื่อนย้ายร่างของชายชราออกไป จูเลียนทำให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ไปยืนเกะกะขวางทางของใครเพื่อให้การเคลื่อนย้ายคนป่วยเป็นไปได้สะดวก สีหน้าของเขายังมีความเคลือบแคลงสงสัยเจืออยู่ด้วยเล็กน้อย
หากนี่เป็นฉากละครอะไรสักอย่างเพื่อให้พวกเขาร่วมแรงร่วมใจกันตามหาเทียร่าองค์นั้น จูเลียนก็ได้แต่บอกว่ามันสำเร็จอย่างสวยสดงดงามที่สุดเลยทีเดียว
|
|
karenxv
Karen
𝑲𝒂𝒓𝒆𝒏 𝑽𝒂𝒏𝒅𝒆𝒍𝒘𝒂𝒍 𝑳𝒐𝒑𝒆𝒛.
Posts: 58
|
Post by karenxv on Apr 27, 2019 22:04:58 GMT 7
ทั้งห้องเข้าสู่สภาวะเงียบกริบกระทั่งได้ยินเสียงลมหายใจของคนข้างกายเมื่อชายชราบนรถเข็นเข้ามาภายในห้องโดยมีคุณพ่อบ้านตามมารับใช้ไม่ห่างกาย ประมุขของบ้านช่างดูน่าเกรงขามถึงแม้ว่ากำลังจะถดถอยลงแล้วก็ตาม เธอและบรรดาเครือญาติทั้งหลายตั้งใจฟังอีกฝ่ายกล่าวขึ้น
คาเรนรู้สึกขยาดเล็กน้อยเมื่อแก้วไวน์ทรงสูงที่บรรจุน้ำสีเข้มยื่นมาทางเธอ มือบางรับไว้อย่างปฏิเสธไม่ได้ก่อนแสร้งยกขึ้นจิบ เพียงแค่แสร้งเท่านั้น เธอจำเป็นต้องใช้ทักษะระแวดระวังนับตั้งแต่ก้าวเข้ามาภายในคฤหาสน์นี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้.. จริงไหม?
เทียร่ามูลค่าหนึ่งพันล้านดอลล่าร์ดังเข้าโสตประสาท เธอจับจ้องภาพอันงดงามของอัญมณีที่ชายชราว่า ในขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ
"..!?" เสียงไอโขลกดังขึ้นและไม่มีท่าทีว่าจะหยุด สีหน้าแตกตื่นเกิดขึ้นพร้อมความตกใจของทุกชีวิตภายในห้องแห่งนี้ วิลเลี่ยม แวนเดอร์วัลแทบล้มจากรถเข็นหากไม่ได้มือของคุณพ่อบ้านช่วยไว้ คาเรนผุดลุกขึ้น เพย์ตัน เด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเธอวิ่งออกไปเรียกหมอประจำคฤหาสน์ตามคำสั่ง ส่วนดาเนียลพี่ชายของเธอถูกขอให้ช่วยพยุงร่างชายชราออกจากห้องไป
"นี่มันเรื่องบ้าอะไร?" ความโกลาหลเมื่อครู่สร้างความตกใจจนเธอไม่สามารถนั่งลงได้อีก แว่บหนึ่งคำสาปที่ชายชราเล่าเข้ามาในหัวเธอราวกับฉายภาพซ้อน "ตลกน่า.." เธอไม่ใช่พวกที่จะเชื่อในคำสาปหรือภูติผี เรื่องนี้มันต้องมีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น เธอเชื่อแบบนั้น
|
|
|
Post by Jolene G. on Apr 27, 2019 22:44:41 GMT 7
- II.I -
เสียงเปิดประตูไม้บานใหญ่ตามด้วยเสียงล้อวีลแชร์บดกับพื้นขณะเคลื่อนเข้ามาภายในห้องสมุด บรรดาลูกหลานแวนเดอร์วัลต่างนิ่งไปครู่หนึ่ง รวมถึงตัวโจลีนน์เองด้วย ถึงจะเคยพบกันแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวานโดยการร่วมโต๊ะอาหารเย็น แต่ความรู้สึกเวลานี้นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หล่อนระบายยิ้มแต้มบนใบหน้าเล็กน้อยขณะสายตาจับจ้องยังการเคลื่อนไหวของบุรุษที่มาใหม่ทั้งสอง จากนั้นการประชุมจึงเริ่มต้นขึ้น
น้ำเสียงทุ้มฟังดูทรงอำนาจเอ่ยถึงจุดประสงค์การเรียกลูกหลานแวนเดอร์วัลมารวมตัวในครั้งนี้ 'เทียร่าที่ประดับเพชรดวงตานางฟ้า' บรรยายรอบตัวเย็นเยียบลงอย่างเห็นได้ชัด จนหล่อนเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ดีที่มันไม่มีเสียงดังไปกว่าเสียงพูดของวิลเลียม หล่อนและคนอื่น ๆ ยังคงนั่งเงียบฟังการบอกเล่าเรื่องเทียร่าชิ้นนี้ จนรู้ว่ามันสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยกว่าศตวรรษและยังมีคำสาปผูกพันกับผู้คนในตระกูลแวนเดอร์วัลเสียอีก ได้ยินเพียงเท่านั้น โจลีนน์จึงตระหนักรู้ได้ไม่ยากนักว่ากำลังจะมีเรื่องยุ่งยากตามมา
หากไม่ใช่เพราะมารดาขอร้อง หล่อนคงไม่ทิ้งท่านมาที่นี่ หากเพียงไม่นานกลับมีเสียงไอโขลกของวิลเลียมดังขึ้น พร้อมกับภาพที่เขาทรุดลงจนหล่อนผุดลุกขึ้นอย่างตกใจ หมายจะเข้าไปช่วยพยุงแต่อยู่ห่างเกินไปจึงเข้าถึงตัวเขาไม่ทัน ร่างงองุ้มของวิลเลียมถูกอุ้มออกไปแล้ว ผ้าเช็ดหน้าชุ่มด้วยเลือดในมือคุณพ่อบ้านยังติดตาหล่อน บรรยากาศโกลาหลในห้องสงบลงแล้ว แต่กลับมีความตึงเครียดเข้าแทนที่จนสัมผัสได้
Jolene V. Guzman
|
|
|
Post by 𝑨𝒍𝒆𝒙𝒊𝒔 on Apr 27, 2019 23:23:18 GMT 7
ความอลหม่านเกิดขึ้นและจบลงว่องไวราวกับพายุ เหลือทิ้งไว้เพียงเสี้ยวส่วนกระจัดกระจายของความรู้สึกคนในห้อง เขาสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดที่แผ่ลามออกมา เชื่อมต่อทุกคนไว้ด้วยความรู้สึกแบบเดียวกัน
อเล็กซิสถอยเท้ากลับมายืนที่มุมหนึ่งของห้องเพื่อไม่ให้เกะกะ เขายอมรับว่าทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันตอนที่เห็นวิลเลียมล้มลงไป นึกชื่นชมความว่องไวเด็ดขาดของพ่อบ้านอยู่ในใจ
นัยน์ตาสีฟ้าจัดมองตามแผ่นหลังของเวสท์ที่เข็นรถออกไปเป็นคนสุดท้าย ทุกคนในห้องยังคงยืนอยู่ที่เดิมราวกับหุ่นขี้ผึ้ง ไม่มีใครพูดอะไร สุดท้าย จึงเป็นเขาที่ทำลายบรรยากาศนั้นลงด้วยการเดินออกมาจากห้อง ครุ่นคิดถึงเรื่องเพชรดวงตานางฟ้า และคำสาปที่ว่ายเวียนอยู่รอบกายสายเลือดของแวนเดอวัล มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า เขาไม่รู้ แต่ถ้าถามเขา เด็กหนุ่มวัยยี่สิบกว่ายังมองว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระของคนเฒ่าคนแก่เท่านั้นเอง
ฝีเท้าเนิบช้าของอเล็กซิสที่กำลังจะก้าวขึ้นชั้นสองเพื่อกลับห้องของตนหยุดชะงัก ก่อนจะหมุนเปลี่ยนทิศไปยังชั้นล่างสุดของคฤหาสน์แทน
เขาคงต้องไป เยี่ยมเยียน ใครบางคนเสียหน่อย
|
|
|
Post by JORDAN on Apr 28, 2019 10:48:37 GMT 7
"ตลอดชีวิตของฉันไม่เคยคิดจะเชื่อเรื่องราวพรรค์นี้ แต่..." ยังไม่ทันสิ้นคำ ฉับพลันที่ความโกลาหลก่อกำเนิดขึ้น เป็นฉับพลันเดียวกับที่ร่างสูงของจอร์แดนผุดลุกขึ้นอย่างเร่งรีบ แต่เขาช้าไประยะห่างจากเก้าอี้บุนวมที่ชายหนุ่มเคยนั่ง อยู่ไกลจากวีลแชร์ของชายชรามากกว่าคนอยู่ใกล้อย่างลูกพี่ลูกน้อง เพย์ตัน มันเหมือนลมพายุหอบนึงที่พัดเข้ามา สร้างความปั่นป่วนแล้วพัดหายไป ทิ้งไว้เพียงเศษซากความสงสัยในกันและกันของสมาชิกที่เหลือภายในห้องสมุด ยืน- นั่งเก้ๆ กังๆ ราวกับหาที่วางให้ตัวเองไม่ได้
ความรู้สึกกดดันชวนอยากจะสำรอกออกมา มันเป็นเฉกเช่นเดียวกันกับมื้ออาหารเมื่อคืนไม่ผิดเพี้ยน หัวคิ้วขมวดมุ่นสองมือสอดเข้าล้วงกระเป๋ากางเกง นัยน์ตาจับจ้องหยดเลือดสะบัดเป็นดวงบนพื้นห้องอย่างครุ่นคิด เก็บงำความรู้สึกบางประการก่อนจะก้าวออกตามคนอื่นๆ ไป
|
|